UMPIRE……..(กรรมการตัดสิน)
การไปเป็นกรรมการตัดสินภาพถ่าย
คงไม่ใช่เป็นการไปตัดสินว่าภาพใครดีกว่าใคร / ภาพใดสวยกว่าภาพใด / ...อ้าว...แล้วจะไปตัดสินอะไรละครับ?
การไปตัดสินภาพถ่ายสำหรับผมแล้วคงบอกไม่ได้จริง
ๆ อย่างที่เปรยไว้ เพราะแต่ละคนล้วนมีความคิด ล้วนสร้างสรรค์ผลงานตามที่ได้รับโจทย์มา
แล้วตีโจทย์ออกมาเป็นภาพในสมอง ไปถ่ายและคัดเลือกภาพที่คิดว่าดีที่สุด
และสื่อความหมายได้ตรงกับโจทย์ จากนั้นจึงไปให้กรรมการเป็นคนคัดเลือกเพื่อ
“ตัดสิน” ให้ได้รับรางวัลหรือไม่ได้รับรางวัลอะไรเลยสำหรับผมแล้ว
ผมมองอยู่ 3 ประเด็นครับ
1.สวย
2.สื่อ
3.Work
1.ภาพสวย
คือภาพที่มีการจัดวางองค์ประกอบภาพที่สมบูรณ์ดูแล้วมีจุดสนใจ มีจุดเด่น
รวมถึงแสงและเงาตรงตามช่วงเวลา อีกทั้งการมองภาพที่ดึงดูดอารมณ์ของผู้ดูภาพได้ด้วยองค์ประกอบต่างๆ
2.ภาพสื่อ
คือภาพที่สื่อความหมายกับผู้ชมได้ ทั้งมิติของสื่อแบบตรง ๆ ซื่อ ๆ
ดูเข้าใจง่ายตรงกับโจทย์กับที่ผู้จัดประกวดต้องการ หรือสื่อแบบทางอ้อม
ดูแล้วให้คิดมี Gimmick (จุดเด่น)
ที่ต้องการสื่อให้เข้าใจในความหมายที่ซ่อนอยู่ในภาพ (Meaning) โดยการใช้ความคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative thinking) ใส่เข้าไป หรือภาพที่มีจินตนาการ (Imagine) ซึ่งคงต้องอาศัยประสบการณ์จากการดูงานภาพ ตามแนวที่ส่งประกวดบ่อย ๆ
ดูมากๆ ให้สมองซีกซ้ายได้รับรู้ข้อมูลเก็บสะสมไว้มากๆแล้ว
การสร้างสรรค์ที่จะเกิดจากสมองซีกขวาถึงจะออกมาได้ เป็นจินตนาการของผู้ถ่ายที่คิด
ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าความคิดมาจากสมอง โดยเฉพาะสมองซีกขวาที่จะสร้างสรรค์ได้ต้องมีข้อมูลมาก
ๆ จากสมองซีกซ้ายก่อนนะครับ ดังนั้น จึงเป็นที่มาว่า “คนดูภาพมากๆ ข้อมูลมากๆจะได้เปรียบ” อ่านมาก รู้มาก ดูมาก รู้มาก ได้เปรียบมาก และอย่าลืมว่า จะให้มี Output
คุณต้อง Input เข้าไปก่อนนะครับ
3.Work
ภาพที่ Work คือภาพที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้งานของแต่ละผู้จัด บางครั้งการเรียนรู้ถึงวัตถุประสงค์
(Objective) ของผู้จัดจำเป็นมาก
เพราะผมมักจะถามผู้จัดก่อนการไปตัดสินภาพว่า ภาพถ่ายที่ได้รับรางวัล “จะเอาไปทำอะไรครับ”
จะจัดทำปฏิทิน/ทำปกหนังสือ/จัดทำเป็น series จัดทำนิทรรศการ (exhibition) จัดรวบรวมเป็น stock
เพื่อทำ web site / application / งานโฆษณา (advertising) ฯลฯ
ก็เป็นอีกแนวคิดหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินที่เหมาะสมก่อนนำไปใช้งานจริงๆ
ถ้าให้ผมตีค่าเป็นคะแนน
ผมใช้ ความสวย = 30% การสื่อ = 40% Work = 20% อีก 10% เป็นตัวแปรเหวี่ยงที่ผมคิดว่า
อาจเป็นความเห็นจากจิตใต้สำนึก หรืออาจเป็นแรงกดดันจากกรรมการท่านอื่นๆ
หรืออาจเป็นความชอบส่วนตัว หรืออาจเป็นความลำเอียง (Bias)
จากพื้นฐานประสบการณ์และอาจเป็นไปได้ว่ามาจากประสบการณ์ตรงจากภาพประเภทนั้นๆ
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เพียงอยากบอกว่าเป็นประสบการณ์ที่ผมมักจะได้ยินคำถามมาเสมอว่า
เวลาอาจารย์ไปตัดสินภาพ อาจารย์ดูอย่างไรบ้างครับ คงได้คำตอบและแนวคิด
ไม่มากก็น้อยนะครับ
ในวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2556 นี้
ประมาณเวลา 13.00 น ผมก็จะไปตัดสินภาพถ่ายภายใต้ หัวข้อ “วิถีทางแห่งยุคสมัย” ที่ Canon
Concept Store Central Airport Plaza ก็คงจะใช้หลักการที่เล่าให้ฟังนี้และครับ
เอามาเป็นตัวตั้ง
อย่างไรก็ตามถ้าใครไม่เคยส่งภาพเข้าประกวดเลยก็น่าจะลองส่งดูบ้างนะครับ
เพราะไม่ใช่แค่เป็นการฝึกฝีมือในการถ่ายภาพ
แต่ผมว่ามันเป็นการฝึกใช้สมองที่ดีเชียวครับ เพราะว่า “การถ่ายภาพนั้นไม่ยากแล้ว แต่ที่ยากกว่านั้นคือ จะถ่ายอะไร ที่มัน สวย
สื่อ และ Work ไปพร้อมๆกันได้ หรือคุณว่าอย่างไรครับ

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น